ในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทำให้เหงื่อออกมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณรักแร้ หญิงตั้งครรภ์บางคนไม่เพียงมีเหงื่อออกมากเท่านั้นแต่ยังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีกลิ่นรักแร้มาก่อน กลิ่นรักแร้ขณะตั้งครรภ์อันตรายหรือไม่?
กลิ่นใต้วงแขนขณะตั้งครรภ์จะทำให้เกิดกลิ่นผิดปกติที่ทำให้หญิงตั้งครรภ์อึดอัด เครียด ส่งผลต่อการสื่อสารและกิจวัตรประจำวัน การดูแลกลิ่นใต้วงแขน สตรีมีครรภ์ควรใส่ใจเลือกวิธีที่มีประสิทธิภาพแต่ปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณแม่ โปรดดูบทความต่อไปนี้เพื่อเรียนรู้วิธีการที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์!
ทำไมคนท้องถึงมีรักแร้?
เหงื่อออกใต้วงแขนในระหว่างตั้งครรภ์เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายของหญิงตั้งครรภ์ซึ่งทำให้เหงื่อออกมากขึ้น
ร่างกายของเรามีต่อมเหงื่อนับล้าน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ต่อมเหงื่อภายนอกและต่อมเหงื่อต่อมไร้ท่อ
ต่อมเหงื่อไร้ท่อมักพบที่มือ เท้า หลัง... เหงื่อที่หลั่งออกมาจากต่อมเหล่านี้มีผลในการกำจัดสารพิษภายนอก และในขณะเดียวกันก็ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายด้วย เรายังพบว่าเหงื่อในบริเวณดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดกลิ่นที่น่าเป็นห่วงอีกด้วย
ในทางตรงกันข้าม ต่อมเหงื่อต่อมไร้ท่อมักกระจุกตัวอยู่บริเวณรักแร้ บริเวณจุดซ่อนเร้น หรือในต่อมน้ำนม... ต่อมเหงื่อเหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ รวมถึงกลิ่นใต้วงแขนด้วย ต่อมเหงื่อต่อมไร้ท่อหลั่งโปรตีน กรดอะมิโน ... และภายใต้อิทธิพลของแบคทีเรีย สารเหล่านี้จะสร้างกลิ่นกายที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละคนและทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
ในระหว่างตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนในร่างกายของหญิงตั้งครรภ์จะเปลี่ยนไปอย่างมาก ร่างกายของหญิงตั้งครรภ์จะผลิตฮอร์โมนที่เรียกว่าเอสตราไดออลจำนวนมาก ซึ่งทำให้ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น
ในขณะเดียวกัน ในระหว่างตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์มีความเครียด ได้ง่ายกว่า ซึ่งทำให้ต่อมเหงื่อหลั่งกรดไขมันมากขึ้นด้วย นี่คือตัวการหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นกายที่ไม่พึงประสงค์ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลักของอาการนี้ ได้แก่ รักแร้และอวัยวะเพศ
อาหารเสริมและอาหารบางชนิดที่นำเข้าสู่ร่างกายในระหว่างตั้งครรภ์ยังส่งผลต่อการสร้างกลิ่นกายที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้นไม่ว่าจะมากหรือน้อย หนักหรือเบา หญิงตั้งครรภ์ก็มีกลิ่นที่ “ผิดปกติ” สร้างความลำบากใจให้ตัวเองและคนรอบข้างได้เหมือนกัน
วิธีรักษากลิ่นใต้วงแขนขณะตั้งครรภ์อย่างได้ผลและปลอดภัย
น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวไม่เพียงแต่ให้ความชุ่มชื้นและสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการ กำจัดกลิ่น ใต้วงแขนได้อย่างมี ประสิทธิภาพอีกด้วย ในระหว่างตั้งครรภ์ น้ำมันมะพร้าวเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง นอกจากการดับกลิ่นรักแร้แล้ว คุณสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวนวดผิวหน้าท้องเพื่อป้องกันผิวแตกลายหลังคลอด
ก่อนทาน้ำมันมะพร้าวที่รักแร้ควรทำความสะอาดรักแร้และซับรักแร้ให้แห้ง นวดเบา ๆ เพื่อให้เอสเซนส์ของน้ำมันมะพร้าวซึมซาบทั่วถึง หลังจาก 30 นาทีล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำรักแร้แต่ละข้างอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษากลิ่นใต้วงแขนในระหว่างตั้งครรภ์เพื่อขจัดกลิ่นใต้วงแขนอย่างมีประสิทธิภาพ
น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นใต้วงแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บอระเพ็ดและสารส้ม
บอระเพ็ดเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสมุนไพรต้านการอักเสบที่รักษาอาการปวดหัวและปวดท้อง นอกจากนี้ ในการรักษากลิ่นใต้วงแขนในระหว่างตั้งครรภ์ การผสมผสานระหว่างบอระเพ็ดและสารส้มจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษากลิ่นใต้วงแขน
กลุ้มล้างสับละเอียด นำบอระเพ็ดย่างร้อนๆ ใส่สารส้ม แล้วใส่ถุงผ้าเล็กๆ 2 ถุง หนีบที่รักแร้ทั้งสองข้าง ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างด้วยน้ำเย็น หากทำเป็นประจำทุกวันกลิ่นใต้วงแขนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ใบพลูและมะนาว
ใบพลูไม่มีไดเอเทส น้ำตาล แทนนิน และน้ำมันหอมระเหย มะนาวมีกรดไนตริกในระดับสูง ซึ่งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคสูงมาก การผสมใบพลูและมะนาวจะทำให้สามารถกำจัดกลิ่นใต้วงแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความสะอาดใต้วงแขน ถูมะนาว ½ ลูกที่รักแร้เบาๆ เพื่อขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว บดใบพลูแล้วคั้นเอาน้ำทาบริเวณรักแร้ให้ทั่ว ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันกลิ่นใต้วงแขนอย่างได้ผล
เปลือกส้ม
เปลือกส้มมีน้ำมันหอมระเหยจำนวนมากที่มีคุณสมบัติในการระงับกลิ่นกายและรักษากลิ่นใต้วงแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เปลือกส้มตากแห้งแล้วบดเป็นผงผสมกับโยเกิร์ตให้เป็นเนื้อเดียวกัน ทาส่วนผสมให้ทั่วรักแร้แต่ละข้าง ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง กลิ่นรักแร้จะหมดไปอย่างได้ผล
ขิงสด
ขิงมีรสเผ็ดร้อนและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย มีประสิทธิภาพอย่างมากในการกำจัดกลิ่นใต้วงแขน
บีบน้ำขิงออกมาถูที่รักแร้ทั้งสองข้าง นวดเบาๆ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเพื่อไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์ใต้วงแขน
ใช้โรลระงับกลิ่นกายสำหรับสตรีมีครรภ์
ใช้ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อการใช้งาน
การใช้ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายเป็นหนึ่งในวิธีรักษากลิ่นใต้วงแขนของหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากสะดวกและมีประโยชน์ เลือกโรลออนใต้วงแขนที่มีสารสกัดจากธรรมชาติและผ่านการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัยต่อแม่และลูกในครรภ์ ไม่แพ้ ไม่เหนียวเหนอะหนะ
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ
งดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียม-สารก่อมะเร็ง
ไม่เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองซึ่งไม่ดีต่อสตรีมีครรภ์และทารกในครรภ์ เช่น Fragrance, Parabens, Phthalates, Triclosan, สารกันบูด, น้ำหอมสังเคราะห์, ...
ให้ความสำคัญกับการเลือกลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายที่มาจากธรรมชาติที่มีกลิ่นหอมสดชื่น เช่น มะนาว มิ้นต์ อบเชย กลิ่นเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยกำจัดกลิ่นใต้วงแขนได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวให้กับหญิงตั้งครรภ์อีกด้วย
วิธีลดกลิ่นใต้วงแขนสำหรับแม่ท้อง
หากสตรีมีครรภ์ต้องการลดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ ควรใช้วิธีต่อไปนี้เพื่อทำให้เกิดผลที่ไม่คาดคิด:
- ร่างกายสะอาด: การทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดโดยเฉพาะผิวหนังใต้วงแขนจะจำกัดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่น
- ดับกลิ่นเสื้อผ้า: ดูแลเสื้อผ้าให้สะอาดและมีกลิ่นหอมอยู่เสมอ อย่าใส่เสื้อผ้าหลายครั้ง แบคทีเรียก่อกลิ่นได้ง่าย
- การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: จำกัดการรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น เช่น กระเทียม หัวหอม พริก และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มน้ำกรองมาก ๆ เพื่อช่วยชำระล้างร่างกายและขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกจากร่างกาย
- ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายอย่างถูกต้อง: การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายช่วยให้ร่างกายแห้งและสะอาดอยู่เสมอ แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี ห้ามกลิ้งรักแร้ในขณะที่ยังเปียกและหลังจากทำความสะอาดแล้ว สตรีมีครรภ์ ควรปิดฝาทันทีเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและแบคทีเรียเข้าไป