การใช้มันสำปะหลังในทางที่ผิดโดยมองไม่เห็นทำให้เราได้รับพิษจากมันสำปะหลัง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถป้องกันและแก้ไขได้หากคุณมีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้อย่างครบถ้วน
อาการพิษจากมันสำปะหลังเป็นอย่างไรและจะรับมืออย่างไร? โปรดติดตามเนื้อหาในบทความต่อไปนี้เพื่อหาคำตอบที่เฉพาะเจาะจง
ทำไมการกินมันสำปะหลังจึงทำให้เกิดพิษได้?
มันสำปะหลังเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก องค์ประกอบหลักของมันสำปะหลังคือแป้งและสารอาหารอื่นๆ เช่น ไฟเบอร์ ไขมัน และโปรตีน อย่างไรก็ตามปริมาณสารพิษในมันสำปะหลังก็สูงมากเช่นกัน สารพิษในมันสำปะหลังคือกรดไซยาไนดริก (HCN) ซึ่งเป็นสารที่อาจถึงตายได้
การรับประทานมันสำปะหลังอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดพิษได้
อาการพิษจากมันสำปะหลัง
ขึ้นอยู่กับขอบเขตของพิษอาการของโรคจะแตกต่างกันไป:
เป็นพิษในระดับเล็กน้อย
สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากมันสำปะหลังอย่างอ่อน ผู้ป่วยมักมีอาการ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ร่างกายอ่อนล้า จมูกและคอแห้ง เวียนศีรษะ หากอยู่ในสถานการณ์นี้ คุณนอนราบสักสองสามนาทีแล้วผสมน้ำร้อนหนึ่งแก้ว ร่างกายก็จะกลับสู่สภาวะปกติ
พิษเฉียบพลัน, พิษรุนแรง
สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับพิษเฉียบพลันร่างกายจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ ชัก ระบบประสาทผิดปกติ รูม่านตาขยาย กล้ามเนื้อซีด หายใจช้า
- อาการผิดปกติของระบบย่อยอาหาร: คลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเสีย
- อาการแสดงของความผิดปกติทางระบบประสาท: เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ในกรณีที่รุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยจะมีรูม่านตาขยาย ชัก และโคม่า
- อาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ: ขาดอากาศหายใจ ตัวเขียว หากระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลันมีโอกาสเสียชีวิตได้มาก
มันสำปะหลังเป็นพิษอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลันได้
หากพบอาการข้างต้นโดยไม่พาผู้ป่วยไปห้องฉุกเฉินทันเวลา ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 30 นาที แต่หากได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ สุขภาพของผู้ป่วยก็จะกลับมาเป็นปกติและไม่เกิดผลตามมา
เพื่อให้จัดการกับพิษจากมันสำปะหลังได้ทันท่วงที ควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยอาเจียนและดื่มน้ำร้อนใส่น้ำตาลหรือดื่มน้ำอ้อยเพิ่ม หลังจากนั้นต้องนำผู้ป่วยส่งหอผู้ป่วยหนักหรือศูนย์พิษวิทยาเพื่อรับการรักษาต่อไป
เคล็ดลับพื้นบ้านในการจัดการกับพิษมันสำปะหลัง
นอกจากต้องพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลแล้ว เมื่อป่วยด้วยพิษจากมันสำปะหลัง มีข้อแนะนำดังนี้
- นำผักปวยเล้ง 1 กำมือมาตำหรือคั้นน้ำดื่ม
- นำเนื้อกล้วยเคลือบสีขาวขนาดประมาณ 20 ถึง 30 ซม. หนึ่งชิ้นแล้วตำคั้นน้ำเพื่อดื่ม
- ให้ผู้มีพิษดื่มน้ำอ้อย กินอ้อย หรือดื่มน้ำที่มีน้ำตาล
- หยิบ purslane หนึ่งกำมือเพื่อดื่มน้ำผลไม้
- เอาปูมา 10 ตัว ตำให้แหลกแล้วละลายเกลือเล็กน้อยดื่ม
- นำผักใบหนึ่งกำมือคั้นเอาเครื่องดื่ม
- ใช้เปลือกสับปะรดกับบัวบก 1 กำมือ นำมาบดผสมกับเกลือเล็กน้อยดื่ม
ป้องกันพิษจากมันสำปะหลังได้อย่างไร?
ปริมาณสารพิษในมันสำปะหลังมักขึ้นอยู่กับพันธุ์ของมันสำปะหลังที่ปลูก ปริมาณกรดไซยาไนดริกที่เป็นพิษในหัวมันสำปะหลังส่วนใหญ่อยู่ใน 3 ส่วนคือ ใยมันสำปะหลัง หัวมันสำปะหลัง 2 หัว ส่วนที่พิเศษที่สุดคือเปลือกมันสำปะหลัง
กรณีพิษจากมันสำปะหลังเกิดจากการกินมันสำปะหลังอบ, มันสำปะหลังต้มสุก, กินมันสำปะหลังดิบหรือกินเปลือกมันสำปะหลัง, กินมาก และกินมันสำปะหลังเวลาหิว โดยเฉพาะเมื่อไม่แช่และต้มมันสำปะหลังให้ละเอียด ดังนั้นในการกำจัดสารพิษออกจากมันสำปะหลังควรใส่ใจกับวิธีการแปรรูปมันสำปะหลังดังนี้
หลังจากซื้อมันสำปะหลังแล้วคุณต้องล้างดินทรายแล้วลอกผิวมันสำปะหลังที่เป็นสีชมพูออก คุณแช่ในน้ำสะอาดอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง แช่ให้นานที่สุดและเปลี่ยนน้ำเรื่อยๆ นอกจากนี้คุณสามารถใช้น้ำข้าวเพื่อแช่มันสำปะหลังได้ ซึ่งเป็นวิธีการกำจัดสารพิษด้วย เวลาปรุงมันสำปะหลัง ต้ม หรือนึ่ง ต้องเปิดฝาหม้อให้พิษลอยออกมา
เมื่อใช้มันสำปะหลังควรจุ่มกับน้ำผึ้งหรือน้ำตาลเพื่อล้างพิษ หากมันสำปะหลังมีรสขม ควรทิ้งไป เพราะยิ่งมันสำปะหลังมีรสขมมากเท่าใด กรดไซยาไนดริกก็จะมากขึ้นเท่านั้น
เพื่อป้องกันพิษ จำเป็นต้องจัดการมันสำปะหลังด้วยความระมัดระวัง
นอกจากนี้คุณควรทราบด้วยว่าในขณะท้องว่างคุณไม่ควรกินมันสำปะหลังมากและไม่ควรกินมันสำปะหลังในตอนเย็น เพราะหากถูกวางยาเหยื่อจะหลับในขณะนั้นจึงตรวจจับได้ยาก เด็กก็ไม่ควรกินมันสำปะหลังเช่นกันเพราะเป็นพิษได้ง่ายมากและอาการพิษจะรุนแรงกว่าผู้ใหญ่
ข้างต้นเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหาพิษจากมันสำปะหลัง เราต้องใส่ใจกับวิธีการแปรรูปและใช้มันสำปะหลังอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากพิษร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้