ควรเสริม DHA ให้กับทารกปีละกี่ครั้ง? อาหารเสริมที่ถูกต้องคืออะไร?

DHA เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสมองและสติปัญญา (IQ) ของลูกน้อย อย่างไรก็ตาม การเสริม DHA ให้ลูกปีละกี่ครั้ง เสริมอย่างไรให้ถูกวิธี… ยังคงเป็นคำถามที่พ่อแม่หลายๆ คนให้ความสนใจ

ปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่หลายคนยังสงสัยว่าควรเสริม DHA ให้ลูกตอนไหนดี โดยไม่รู้ว่าตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ลูกก็จำเป็นต้องได้รับ DHA อยู่แล้ว

ควรให้ DHA แก่ทารกเมื่อใด ? ทารกต้องการ DHA เพื่อพัฒนาสมอง โดยเฉพาะอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 1 ปี การเสริม DHA อย่างเพียงพอสำหรับทารกในช่วงเวลานี้จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาทักษะยนต์และการมองเห็น

ในช่วงอายุ 1-6 ปี คุณแม่ควรให้ DHA แก่ทารกอย่างเพียงพอ เพราะในระยะนี้เด็กจะมีอาการเบื่ออาหาร ซึ่งอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ง่าย ตั้งแต่อายุ 6 ขวบเป็นต้นไป สมองของเด็กๆ จะทำงานมากขึ้นเพราะต้องซึมซับความรู้มากมายทั้งจากการเรียนและการใช้ชีวิต คุณแม่จึงต้องเพิ่มการเสริม DHA เพื่อช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสุขภาพ และความจำดีขึ้น

ระดับ DHA ที่แนะนำสำหรับเด็กคือเท่าไร?

ก่อนที่จะเรียนรู้ว่าควรเสริม DHA กี่ครั้งต่อปีสำหรับทารก จำเป็นต้องเข้าใจระดับของ DHA ในแต่ละช่วงอายุของเด็ก

ในแต่ละระยะความต้องการ DHA ให้กับเด็กจะแตกต่างกันตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ดังนี้

ทารกตั้งแต่แรกเกิดถึง 1 ขวบ 

สำหรับทารกในระยะนี้ DHA จำเป็นมากสำหรับเด็กในการพัฒนาจิตใจ สายตา และการทำงานของร่างกาย แหล่งที่มาหลักของการเสริม DHA ในระยะนี้คือน้ำนมแม่ น้ำนมแม่เป็นแหล่งหลักของ DHA ที่อุดมสมบูรณ์และสารอาหารที่จำเป็นมากมายเพื่อช่วยให้ทารกได้รับ DHA ที่เพียงพอซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและความต้านทานของทารก

ปริมาณ DHA ขั้นต่ำที่เด็กต้องเสริมคือประมาณ 70 มก./วัน นอกจากนี้ WHO ยังแนะนำให้คุณแม่ควรให้ลูกได้รับ DHA ประมาณ 200 มก. เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ที่สุดของเด็ก

หากในระยะนี้มารดามีน้ำนมน้อยหรือไม่มีเลยที่จะให้ DHA เพียงพอสำหรับทารก ควรพิจารณาผลิตภัณฑ์นมสูตรตามท้องตลาดเพื่อเสริมปริมาณ DHA ที่จำเป็นสำหรับพัฒนาการของทารก

นอกจากนี้ อย่าใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร DHA ในทางที่ผิด ควรปรึกษาแพทย์หากคุณตั้งใจจะให้ลูกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว เพื่อให้ทารกสามารถพัฒนาได้ตามธรรมชาติมากที่สุด เมื่ออายุได้ 6 เดือน เมื่อทารกเริ่มกินอาหารแข็งได้ คุณแม่ควรเสริม DHA ให้กับทารกผ่านอาหารที่อุดมด้วย DHA เช่น ปลาแซลมอน ธัญพืช นม ผัก ...

เพื่อให้ทารกดูดซึม DHA ได้ดีขึ้น คุณแม่ควรให้อาหารไขมันแก่ทารก เช่น เนย น้ำมันมะกอก ไข่ ...

ทารกจำเป็นต้องดูดซึม DHA ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

เด็กอายุตั้งแต่ 1 ถึง 6 ปี

ในขั้นตอนนี้ DHA จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านการมองเห็นและสมอง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าคุณแม่ควรเสริม DHA ให้กับทารกประมาณ 75 มก./วัน ในเวลานี้ทารกเริ่มซึมซับข้อมูลและความรู้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ดังนั้น สมองจึงต้องทำงานมากเพื่อเก็บความรู้ของทารก

การเสริม DHA เป็นประจำในระยะนี้จะช่วยให้เด็กพัฒนาความสามารถในการประมวลผลข้อมูล เพิ่มความจำ และพัฒนาการมองเห็นได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ DHA ยังเป็นสารอาหารที่ช่วยให้เด็กมีสุขภาพหัวใจที่ดีขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นการสร้างเมนูอาหารที่มี DHA ให้หลากหลายในขั้นตอนนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทารกที่จะมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และดีที่สุด

ควรเสริม DHA ให้กับทารกปีละกี่ครั้ง?  อาหารเสริมที่ถูกต้องคืออะไร? สร้างเมนูที่อุดมด้วย DHA เพื่อช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

เด็กอายุมากกว่า 6 ปี

ในขั้นตอนนี้ ทารกได้เริ่มไปโรงเรียนและซึมซับความรู้ใหม่ๆ มากมาย หลากหลายมากขึ้นและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดังนั้นการที่สมองจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจึงต้องการสารอาหารจำนวนมาก โดยเฉพาะ DHA (ส่วนประกอบของสารสีเทา) การเพิ่ม DHA ที่เหมาะสมในมื้ออาหารเพื่อช่วยให้เด็กมีความจำดีขึ้น พัฒนาสติปัญญา และโฟกัสไปที่การเรียนรู้

อาหารที่มี DHA สูงควรให้เด็กในระยะนี้ ได้แก่ ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ปลากระโทงดาบ ปลาแซลมอน ไข่แดง กุ้ง อัลมอนด์ วอลนัท กะหล่ำปลี ถั่วลิสง... และควรรวมไขมันหลายชนิดเข้าด้วยกันเพื่อให้ดูดซึม DHA ได้ดีขึ้น ร่างกาย.

การเสริม DHA ช่วยให้เด็กมีไอคิว 8.3 คะแนนในช่วงอายุ 8 ถึง 9 ปี

แล้วคุณเสริม DHA ให้ลูกน้อยปีละกี่ครั้ง?

คุณพ่อคุณแม่ควรระลึกไว้เสมอว่าในแต่ละช่วงของพัฒนาการของลูกน้อย จำเป็นต้องมี DHA ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มีการจำกัดอายุในการให้ DHA แก่ลูกน้อยของคุณ ตามที่ผู้เชี่ยวชาญ 1 ปี คุณแม่ควรแบ่งเป็น 2 ถึง 3 ครั้งเพื่อเสริม DHA ให้กับทารก ไม่จำเป็นต้องทุกวัน

หากต้องการทราบแน่ชัดว่าควรเสริม DHA ให้กับทารกปีละกี่ครั้งพ่อแม่ควรพาลูกน้อยไปตรวจสุขภาพเพื่อทราบสภาวะปัจจุบันของทารกและจะได้ปรึกษาแพทย์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น

คู่มือเสริม DHA ให้ลูกน้อยอย่างถูกวิธี

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ปกครองให้ DHA แก่ทารกในระหว่างมื้ออาหาร เนื่องจาก: โอเมก้า 3และDHAจะถูกดูดซึมได้ดีขึ้นเมื่อสัมผัสกับไขมันที่พบในอาหารทุกวัน ไขมันมีผลกระตุ้นเอนไซม์ไลเปสให้ทำงาน ช่วยให้ DHA ถูกดูดซึมเข้าสู่ลำไส้เร็วกว่าการรับประทาน DHA ในช่วงเวลาอื่นถึง 3 เท่า โดยเฉพาะการให้ DHA แก่ลูกน้อยในมื้อค่ำ นอกจากการดูดซึมที่รวดเร็วแล้ว ลูกน้อยยังนอนหลับได้ลึกและดีขึ้นอีกด้วย

คุณแม่ควรเสริม DHA ให้กับลูกน้อยจากอาหารต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ถั่วเปลือกแข็ง (อัลมอนด์ ถั่วลิสง วอลนัท...) ไข่ นม... หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับเด็กที่เป็นโรคอะนอเร็กเซีย ให้อาหารเสริม DHA หรือนมเสริม DHA แก่ลูกน้อยของคุณ สตรีมีครรภ์ควรเสริม DHA เพื่อพัฒนาการที่ดีของทารกในครรภ์ คุณแม่ที่ปรารถนาจะกล่าวถึงแผนการเสริม DHA และสารอาหารสำหรับทารกอย่างเหมาะสม