กินทุเรียน ดื่มโค้ก ดีไหม? สิ่งที่ควรสังเกตเมื่อใช้อาหารทั้งสองชนิดนี้?

อย่างที่เราทราบกันดีว่าเวียดนามเป็นประเทศที่มีอาหารที่หลากหลายและหลากหลายด้วยส่วนผสมที่สร้างสรรค์ซึ่งสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับทุกคน ทุเรียนและโคคาเป็นอาหารและเครื่องดื่มยอดนิยมในปัจจุบัน ถ้าเอามารวมกันกินทุเรียนกับโค้กแล้วมีผลเสียต่อสุขภาพไหม?

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีข้อมูลจำนวนมากว่าสองพ่อลูกชาวเวียดนามที่เดินทางมาประเทศไทยเสียชีวิตจากอาหารเป็นพิษก่อนหน้านั้น พวกเขากินทุเรียนและดื่มโค้ก ทำให้หลายคนสงสัยว่ากินทุเรียนแล้วดื่มโคคาดีไหม?

กินทุเรียน ดื่มโค้ก ดีไหม?

ช่วงนี้หลายคนสงสัยว่ากินทุเรียนแล้วดื่มโคคา ผิดไหม เพราะในโซเชียลเน็ตเวิร์กมีข้อมูลมากมายที่เชื่อว่าการกินทุเรียนร่วมกับดื่มโคคาอาจทำให้เกิดพิษถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทำให้หลายคนตกใจกลัวไม่กล้ากินอีกต่อไปเพราะกลัวว่าจะส่งผลต่อสุขภาพ

หลังข้อมูลนี้แพร่สะพัดบนโซเชียลเน็ตเวิร์กสร้างความสับสนให้กับประชาชน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารตอบคำถาม กินทุเรียนแล้วดื่มโคคาดีไหม? รศ.ดร. Nguyen Duy Thinh เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของอาหาร (อาจารย์ประจำสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพ - อาหารแห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) กล่าวว่าข้อมูลข้างต้นไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาใดที่แสดงให้เห็นว่าการกินทุเรียนและดื่มโคคาอาจทำให้เกิดพิษร้ายแรงได้ จากการโต้เถียงกันเมื่อเร็วๆ นี้ นักโภชนาการจะทำการวิจัยในหัวข้อนี้เพื่อให้ผู้คนรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อใช้

รองศาสตราจารย์ทินห์ยังกล่าวอีกว่าทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารมากมายและเป็นอาหารที่ดี ในทุเรียน 100 กรัม มีน้ำ 66.8 กรัม 28.3g กลูไซด์; โปรตีน 2.5g; ไขมัน 1.6 กรัม… ยังมีแร่ธาตุและวิตามินอื่นๆ อย่างไรก็ตามการใช้ทุเรียนมากเกินไปก็ไม่ดีเพราะร้อนและมีน้ำตาลสูงโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงไม่ควรรับประทานมาก

กินทุเรียน ดื่มโค้ก ดีไหม?

ข้อควรทราบในการรับประทานทุเรียน

นอกจากการกินทุเรียนและดื่มโคคาแล้ว สิ่งที่ควรสังเกตเมื่อกินทุเรียนก็เป็นสิ่งที่หลายคนสนใจเช่นกัน อย่างที่ทราบกันดีว่าทุเรียนมีส่วนประกอบมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ เมื่อรับประทานทุเรียนในปริมาณประมาณ 234 กรัม จะช่วยให้ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตเกือบ 20% ของปริมาณที่ต้องการในหนึ่งวัน จะเห็นได้ว่าทุเรียนเป็นอาหารเสริมที่ให้พลังงานแก่ร่างกายได้ดีมาก นอกจากนี้ทุเรียนยังมีวิตามิน B และ C ที่ช่วยการไหลเวียนของเลือด ลดคอเลสเตอรอล และทำให้แผลหายเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม นอกจากการใช้ทุเรียนให้เป็นประโยชน์แล้ว เราจำเป็นต้องทราบประเด็นต่อไปนี้เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น:

  • ทุเรียนมีฤทธิ์ร้อน มีเสมหะ ผู้ที่มีอาการไอ เจ็บคอ เป็นหวัด ริดสีดวงทวาร ท้องผูก ... ไม่ควรรับประทานทุเรียน
  • ผู้ที่ม้ามอ่อนแอไม่ควรรับประทานทุเรียนมากเพราะจะทำให้อิ่มท้องและอาหารไม่ย่อย
  • ผู้ที่เป็นเบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง ไม่ควรกินทุเรียน เพราะเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีสูง น้ำตาลสูง ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นทันทีที่กิน
  • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจและโรคไตควรจำกัดการรับประทานทุเรียน เพราะทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง หากรับประทานมากจะทำให้โพแทสเซียมคั่งในร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจหยุดเต้น และอาจเสียชีวิตได้
  • อย่างที่ทราบกันดีว่าทุเรียนมีลักษณะร้อน ดังนั้นผู้ที่มีความร้อนภายในจึงไม่ควรรับประทาน เพราะจะทำให้ร่างกายไม่สบายและทำให้อาการนี้แย่ลงได้
  • ผู้สูงอายุมีระบบการย่อยอาหารไม่ดี ดังนั้นเมื่อรับประทานทุเรียนมาก ๆ อาจทำให้ลำไส้อุดตันและท้องผูกได้ เพราะมีเซลลูโลสอยู่มาก

นอกจากนี้ ไม่ควรรับประทานทุเรียนมากเกินไปใน 1 วัน เพราะจะทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติเช่น ท้องอืด ท้องอืด อาหารไม่ย่อย วันหนึ่งควรกินทุเรียนประมาณ 2 ซองเท่านั้น และควรกินคู่กับผลไม้ฤทธิ์เย็นอื่นๆ เช่น แก้วมังกร มังคุด ...

กินทุเรียน ดื่มโค้ก ดีไหม?  สิ่งที่ควรสังเกตเมื่อใช้อาหารทั้งสองชนิดนี้? ข้อสังเกตบางประการเมื่อรับประทานทุเรียน

ข้อควรรู้เมื่อดื่มน้ำอัดลม

น้ำอัดลมเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน เพราะรสชาติพิเศษช่วยให้รู้สึกสดชื่นและกระตุ้นความอยากอาหาร อย่างไรก็ตาม มีบางสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเมื่อดื่มน้ำอัดลมเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพของคุณ:

หลังดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม:บางคนคิดว่าการดื่มน้ำอัดลมหลังดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดความขมของแอลกอฮอล์และบรรเทาอาการแอลกอฮอล์ได้ แต่จะทำให้เมาเร็วขึ้น ปวดหัว และส่งผลต่อไต

อย่าดื่มมากเกินไป:แม้ว่าทั้งผู้ใหญ่และเด็กจะชอบดื่มน้ำอัดลม แต่การดื่มมากเกินไปอาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจโรคตับ โรคอ้วน และเคลือบฟันเสียหายได้ ดังนั้นอย่าดื่มมากเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ

ดื่มเร็วและมากพร้อมๆ กัน:หากดื่มแบบนี้จะทำให้ "เมา" น้ำอัดลม ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น หัวใจเต้นเร็วเกินไป หัวใจอ่อนล้า

อย่าอมโค้กไว้ในปากเป็นเวลานาน:อาจทำให้คอของคุณมีเลือดคั่ง ทำให้เกิดอาการบวมและเจ็บบริเวณคอได้ นอกจากนี้ยังทำให้ฟันผุและเป็นอันตรายต่อสารเคลือบฟันอีกด้วย

ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นไม่ควรดื่มน้ำอัดลมเพราะมี CO2 มาก เมื่อใช้ไปนานๆจะสะสมที่ผนังกระเพาะทำให้แผลหายนานลุกลามมากขึ้น หากรับประทานเกินขนาดอาจทำให้กระเพาะทะลุได้

อย่าดื่มหลังจากรับประทานอาหารมากเกินไป เพราะจะทำให้กระเพาะอาหารของคุณต้องทำงานหนักเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผนังกระเพาะอาหารขยายตัวได้ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการท้องแตก

ดื่มน้ำอัดลมเย็นกับอาหารร้อน:การรับประทานขนมอบ อาหารร้อน ร่วมกับการดื่มน้ำอัดลมช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นและเพิ่มความอยากอาหาร อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างกะทันหันจะลดการทำงานของกระเพาะอาหาร และอาจทำให้ฟันและเหงือกเสียหายได้

ข้อควรรู้เมื่อดื่มน้ำอัดลม

ข้างบนคือคำตอบว่ากินทุเรียนกับดื่มโค้กดีไหม เราสามารถผสมอาหารและเครื่องดื่มทั้งสองนี้ได้เนื่องจากไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ว่าการรวมเข้าด้วยกันจะทำให้เกิดพิษและเสียชีวิต นอกจากนี้ เราต้องทราบบางสิ่งเมื่อใช้โคคาและทุเรียนเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่ไม่พึงประสงค์ หากคุณพบว่าบทความนี้น่าสนใจ โปรดติดตามหน้า SignsSymptomsList เพื่อรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับโพสต์ล่าสุด!